ค้นหา
ข่าวสารเพื่อสมาชิก

ธัญญศรัณ แสงทอง ผู้บริหารใหม่ไฟแรง พร้อมลุยแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อน
ข่าวเด่นผู้บริหารใหม่ที่น่าจับตามอง "ธัญญศรัณ แสงทอง" เข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย โดยเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2565 โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินงานตามภารกิจหลักของสมาคมฯ คือ การเป็นตัวแทนในการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกร้านค้า ทั้งผู้ค้าส่งและค้าปลีกรวมถึงผู้จัดจำหน่าย และผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยมุ่งเน้นด้านปัญหาที่ส่งผลกับธุรกิจยาสูบ นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เป็นผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ภาษีและกฎระเบียบจากองค์กรสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ได้คลุกคลีในวงการธุรกิจการค้า ในการช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจ ตลอดจนประสานงานระหว่างผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ภาครัฐบาลของไทย เป็นเวลานานเกือบ 30 ปี ที่พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้กับร้านโซห่วย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผลกระทบจากปัญหาบุหรี่เถื่อนและช่วยเฝ้าระวังให้มีการขายบุหรี่ให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ซึ่งส่งผลกระทบเรื้อรังเพื่อช่วยเหลือร้านค้าอย่างเร่งด่วน คือ การระบาดของบุหรี่เถื่อน หลังพบมีร้านค้าขายบุหรี่หนีภาษีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในภาคใต้ โดยเตรียมผลักดันให้หน่วนงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง โดยสมาคมฯ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่เถื่อน และหากสมาชิกมีข้อเสนอแนะหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ ของทางสมาคมฯ
อ่านต่อ
สมาคมการค้ายาสูบไทย ร้องหน่วยงานรัฐ พรรคการเมือง แก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อนเร่งด่วน
ข่าวเด่นสมาคมการค้ายาสูบไทย กระตุ้นการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อน ประสานหน่วยงานภาครัฐ กระตุ้นให้เกิดการกวดขันและจับกุมมากขึ้น พร้อมร่อนจดหมายร้องพรรคการเมืองหวังเห็นนโยบายช่วยร้านค้าโชห่วยรายย่อย ชูประเด็นรายได้ลดฮวบเพราะบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมืองทั้งหน้าร้านและบนสังคมออนไลน์ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อร้านค้าในชุมชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมถึงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ทำรัฐสูญรายได้มหาศาล นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เผยถึงสถานการณ์บุหรี่เถื่อนในปัจจุบัน ว่า “สมาคมการค้ายาสูบไทยรับทราบถึงสถานการณ์บุหรี่เถื่อนที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้และการซื้อขายบนโลกออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสูงกว่า 97% ซึ่งสัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายเพิ่มจาก 6.2% ในปี 2563 เป็น 10.3% ในปี 2564 สูงสุดในรอบ 10 ปี ทำรัฐสูญเสียรายได้กว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี และร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายต้องขาดรายได้และกำไรหายไปกว่าร้อยละ 50 ต่อเดือน จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข นางสาวธัญญศรัณเสริมว่า การขายบุหรี่มีต้นทุนสูงเนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสำหรับการสต็อกสินค้า ขณะที่กำไรจากการขายบุหรี่ได้เพียงซองละ 3-4 บาทเท่านั้น แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเงินหมุนเวียนในระดับชุมชนเพราะมีร้านค้ากว่า 500,000 รายทั่วประเทศที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับมหภาค การที่ปัญหาบุหรี่เถื่อนที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากจะกระทบกับรายได้ของร้านค้าแล้ว ยังทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีบุหรี่ได้น้อยลง ส่งผลให้จัดเก็บรายได้เข้าประเทศได้น้อยลงตามไปด้วย “สมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจและมุ่งมั่นดำเนินงานในการประสานความร่วมมือเสมอมา โดยในปี 2565 สมาคมฯ ส่งหนังสือไปยังภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปรามบุหรี่เถื่อน แม้หน่วยงานภาครัฐจะเพิ่มความพยายามในการจับกุม แต่ปัญหาก็ยังคงรุนแรง สำหรับในปีนี้ สมาคมฯ มองเห็นโอกาสในการเร่งผลักดันให้การทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่กำลังสู้ศึกเลือกตั้งในขณะนี้ นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบาดของบุหรี่เถื่อนที่มีต่อร้านค้าระดับชุมชน กระตุ้นให้เกิดนโยบายที่เป็นรูปธรรมในการจับกุมปราบปราม ขจัดปัญหาคอรัปชั่นในพื้นที่” “สมาคมฯ และสมาชิกร้านโชห่วยกว่า 1 พันรายติดตามนโยบายพรรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า ธุรกิจขนาดเล็ก และเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจในการเลือกตั้ง 2566 แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามีพรรคการเมืองไหนที่มีการออกนโยบายที่ชัดเจนกับเรื่องของการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างเช่นการปราบปรามบุหรี่เถื่อน บุหรี่หนีภาษี รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ เช่นเหล้าหนีภาษี สมาคมฯ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐและพรรคการเมืองแสดงนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อนเพื่อช่วยเหลือร้านค้าอย่างเร่งด่วน” นางสาวธัญญศรัณ กล่างทิ้งท้าย
อ่านต่อผลกระทบจากบุหรี่เถื่อน

ความร่วมมือจากพวกเราเป็นส่วนช่วยแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนได้
ข่าวเด่นปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายหรือบุหรี่เถื่อนในประเทศไทยไม่ใช่แค่เรื่องภายในประเทศเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่มีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและการค้าระหว่างประเทศ การกวดขันจับกุมในประเทศจึงไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากบุหรี่ผิดกฎหมายที่วางขายในประเทศไทย เช่น บุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ปลอม ส่วนใหญ่ถูกลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศใกล้เคียง เช่น เวียดนามและมาเลเซีย บุหรี่เหล่านี้มักถูกนำเข้ามาทางเส้นทางชายแดนทางบกและทะเล รวมถึงการซุกซ่อนและสำแดงข้อมูลการนำเข้าเป็นเท็จ หรือแม้กระทั่งใช้วิธีการนำเข้าในรูปแบบสินค้าผ่านแดนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ก่อนจะกระจายไปทั่วประเทศเพื่อจำหน่ายให้กับผู้สูบบุหรี่ ผ่านช่องทางออนไลน์ และร้านค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย การแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระดับภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างประเทศในหลายระดับ เช่น การสร้างข้อตกลงในการสกัดกั้นการส่งออกสินค้าบุหรี่ผิดกฎหมายจากประเทศต้นทาง และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งผลิตและเส้นทางลักลอบนำเข้าเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ ทางออกของการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อน จึงจำเป็นต้องจัดการกับประเทศต้นทาง ร่วมมือกับรัฐบาลที่เป็นต้นทางของบุหรี่เถื่อนเหล่านี้ สร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อเพื่อป้องกันและจำกัดการเคลื่อนย้ายสินค้าผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง ร่วมกับการเพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมปราบปราม สกัดกั้นการกระจายสินค้า ทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้า โกดังสินค้า และร้านค้าบุหรี่ผิดกฎหมายทั้งที่ขายออนไลน์และเปิดหน้าร้านขายสินค้า และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ในการสะท้อนปัญหา แจ้งเบาะแส เพื่อสนับสนุนข้อมูลในการทำงานด้านการจับกุมปราบปรามให้กับเจ้าหน้าที่ ดังนั้น ความร่วมมือจากร้านค้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อต้านการค้าบุหรี่เถื่อน หากพบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับการค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย ท่านสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ 👉 ช่องทางการแจ้งเบาะแสของสมาคมการค้ายาสูบไทย http://ttta.or.th/report-form 👉 สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th 👉 Website แจ้งเบาะแส กรมสรรพสามิต แจ้งเบาะแส กรมสรรพสามิต 👉 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วนโทร 1567
อ่านต่อ
เสียงสะท้อนจากโซเชียล ร้านค้าโชห่วยโอดของขายยากเพราะบุหรี่เถื่อนทะลัก
ข่าวเด่นเพจโชห่วยเผยปัญหาบุหรี่เถื่อนระบาดหนักตลอดปี 2567 ทำยอดขายบุหรี่และสินค้าอื่นๆ ของร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายทั่วไทย โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กและโชห่วยรายย่อย ลดฮวบ เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อบุหรี่เถื่อนจากร้านค้าออนไลน์ และร้านขายบุหรี่ผิดกฎหมายในท้องถิ่นที่มีราคาถูกกว่า สมาคมการค้ายาสูบไทยย้ำไม่ทอดทิ้งผู้ประกอบการรายย่อย วอนภาครัฐจัดการปัญหาบุหรี่เถื่อนเป็นวาระแห่งชาติ สมาคมการค้ายาสูบไทย สำรวจความคิดเห็นร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายบนกลุ่มร้านค้า “รวมพลคนโชห่วย-ร้านของชำ” บน Facebook ที่มีสมาชิกกว่า 1.9 แสนคน เกี่ยวกับสถานการณ์บุหรี่เถื่อนพบว่าร้านค้าโชห่วยจำนวนมากแสดงความเห็นตรงกันว่าปัจจุบันบุหรี่ถูกกฎหมายขายได้ลดลงมาก เนื่องจากปัญหาการทะลักของบุหรี่หนีภาษีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และในท้องถิ่นต่างๆ ผู้บริโภคต่างทราบดีว่าสามารถหาซื้อได้จากที่ไหน จึงหันไปซื้อบุหรี่เถื่อนเพราะมีราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัว และยังสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย ซ้ำร้าย ร้านค้าถูกกฎหมายบางร้านยังถูกร้านบุหรี่เถื่อนซัดทอดให้ถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐด้วย เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง แสดงความเห็นว่า “ตอนนี้ขายไม่ดีเหมือนกัน มีบุหรี่เถื่อนเข้ามาเยอะแยะวันนี้ก็มีลูกค้าเพิ่งซื้อเข้ามาก็เลยถามเขาซื้อมาเป็นคอตตอนเลย เขาบอก 280 ตกซองละ 28 บาทเองเราเลยแทบจะไม่ได้ขายเพราะเขาซื้อบุหรี่เถื่อนกันเยอะ” สอดคล้องกับร้านค้าอีกราย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า “ตั้งแต่ครั้งปรับราคา บุหรี่เถื่อนก็ทะลักค่ะ แถวบ้านบอกปากต่อปากกัน (ได้ยินลูกค้าคุยกันหน้าร้าน) ราคาต่อซองยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของบุหรี่ที่เราขายด้วยซ้ำ เคยไปแจ้งความเด็กขโมยของ ส่องเฟสยังโพสขายเป็นคอตตอนบอกตำรวจก็ไม่รู้ว่าเขาดำเนินการอย่างไรมั้ยนะคะ” ด้านนางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “สมาคมฯ เห็นใจผู้ประกอบการร้านค้าที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาบุหรี่เถื่อน เนื่องจากส่งผลกระทบต่ออาชีพการค้าขาย หลายคนตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาครัฐในการปราบปรามบุหรี่เถื่อน เพราะร้านค้าไม่ทราบว่าผู้ขายบุหรี่เถื่อนมีโทษอย่างไร พวกเขาไม่เคยเห็นการดำเนินคดีอย่างเป็นรูปธรรมกับผู้กระทำผิดเหล่านี้ ตลอดปี 2567 สมาคมฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังทุกส่วนราชการแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดความรุนแรง “สมาคมฯ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมีความชัดเจนในการปราบปรามและสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้ผู้บงการ ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำเข้าและขายบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติเพราะทำลายคนตัวเล็กๆ อย่างร้านโชห่วย เป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจชองชาติและยังเป็นปัญหาเศรษฐกิจใต้ดินที่รัฐบาลประกาศว่าจะจัดการด้วย” การสำรวจของอุตสาหกรรมพบว่าอัตราการบริโภคบุหรี่เถื่อนในไทยยังคงตัวที่ราว 25.5% เพราะแม้จะมีการปราบปรามต่อเนื่อง แต่ช่องโหว่ของกฎหมายก็ยังมีอยู่และเปิดช่องให้เกิดการลักลอบนำเข้าได้เรื่อยๆ จนเป็นที่น่าสงสัยว่ามีการใช้ช่องว่างการเป็นสินค้าผ่านแดนและสินค้าเข้าเขตปลอดอากรที่เข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ และภาครัฐควรเร่งแก้กฎหมายอุดช่องว่างเหล่านี้ ขอบคุณที่มา บทความและภพประกอบ https://siamrath.co.th/
อ่านต่อสมัครสมาชิก
สำหรับผู้ประกอบกิจการการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ หรือวิสาหกิจ ในทางการค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้า ผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยตรง อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 200 บาท และค่าบำรุงสมาคม 100 บาท / 2 ปี (ปีละ 50 บาท เก็บทุกๆ สองปี)สมาชิกประเภทวิสามัญ สำหรับผู้มีความสนใจหรือมีความรู้เกี่ยวกับยาสูบหรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือ ผู้ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงิน การขนส่งยาสูบ หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือธุรกิจใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับยาสูบ หรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 1,000 บาท และค่าบำรุงสมาคม 1,000 ต่อปี
แจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมาย
พบเห็นการซื้อขายบุหรี่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ของทางสมาคม และสมาคมจะนำข้อมูลเหล่านี้ยื่นต่อหน่อยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่แจ้งเบาะแสสามารถติดตามผลการแจ้งได้โดยใส่รหัสอ้างอิงที่ได้รับแจ้ง
เบาะแส
©2024 Thai Tobacco Trade Association (TTTA). All right reserved.