จับตานโยบายเชิงรุก สมาคมการค้ายาสูบไทย แก้ไขปัญหาแบบตรงเป้า

วันนี้เราจะมาแชร์ความรู้เรื่อง 8 สิ่งที่ห้ามทำ ที่พ่อค้าแม่ค้าร้านโชห่วยบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าหากทำแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายหรืออาจโดนปรับได้ ดังนั้นรู้ก่อน ก็ป้องกันได้ก่อน มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1.ห้ามขายบุหรี่ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
ข้อปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับผู้ขายบุหรี่
ห้ามตั้งโชว์หรือวางแสดงบุหรี่ให้ผู้ซื้อหรือประชาชนมองเห็น หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ห้ามขายบุหรี่ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี *หากสงสัยอายุผู้ซื้อ ผู้ขายมีสิทธิ์ขอดูบัตรประชาชน หรือบัตรอื่นที่ตรวจสอบอายุผู้ซื้อได้ และห้ามใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ขายบุหรี่ หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท
ห้ามแบ่งขาย ต้องขายบุหรี่ทั้งซอง หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ห้ามโฆษณา ขายบุหรี่ ห้ามติดป้ายแสดงชื่อ และราคาขายบุหรี่ ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ที่อาจจูงใจให้ซื้อหรือบริโภค ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 40,000 บาท และเร่ขาย ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
2. ห้ามจำหน่ายเหล้า-เบียร์ เกินเวลาที่กำหนด
ไม่ขายวันพระใหญ่ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬบูชา เข้าพรรษา-ออกพรรษา
ร้านค้าสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สองช่วง คือ ช่วงกลางวัน เวลา 11.00-14.00 น. ช่วงเย็น เวลา 17.00-24.00 น.
ไม่ส่งเสริมการขาย โดยการลดราคา แจก แถม ชิงรางวัล หรือจับฉลากให้หรือแลกกับสินค้าอื่น ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคล ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ห้ามจำหน่ายตาชั่ง ตวง วัด หากไม่มีใบอนุญาต
ในการจะจำหน่ายเครื่องชั่ง ตวงวัด จะต้องทำการขอหนังสือประกอบธุรกิจ จากสำนักชั่งตวงวัด ศูนย์ชั่งตวงวัด หรือสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต ที่มีอำนาจในจังหวัดที่สถานที่ประกอบธุรกิจตั้งอยู่ หากจําหน่ายโดยไม่ปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๑๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท มาตรา ๖๘ ผู้ใดประกอบธุรกิจตามมาตรา ๑๗ โดยไม่มีหนังสือรับรองการประกอบ ธุรกิจ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
4. ห้ามจำหน่ายยาที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน
ยาอันตรายที่ห้ามจำหน่ายในร้านของชำ
- ยาปฏิชีวนะ / ยาแก้อักเสบ
- ยาแก้ปวด
- ยาหยุดถ่าย
- ยาฆ่าพยาธิ
- ยาควบคุมพิเศษ
หากขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
กลุ่มยาแก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาเม็ดหรือยาน้ำลดกรดอะลูมินาแมกซีเนีย / ยาธาตุน้ำแดง / ทิงเจอร์มหาหิงคุ์ / ยาผงฟู่แก้ท้องอืด / ยาเม็ดหรือยาน้ำบรรเทาอาการเนื่องจากกรดไหลย้อน
กลุ่มยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ท้องเสียผงน้ำตาลเกลือแร่ / ยาผงถ่านรักษาอาการท้องเสีย
กลุ่มยาระบาย ยาระบายแมกนีเซีย / ยาระบายโซเดียมคลอไรด์ ชิดสวนทวาร
กลุ่มยาบรรเทาอาการปวกกล้ามเนื้อ แมลงกัดต่อย ยาหม่องชนิดขี้ผึ้ง
กลุ่มยาแก้แพ้ลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก คลอร์เฟนิรามีน
กลุ่มยาแก้ไอขับเสมหะ ยาน้ำแก้ไอขับเสมหะ / ยาแก้ไอน้ำดำ
กลุ่มยา ยาดมหรือ ทาแก้วิงเวียน หน้ามืด คัดจมูก ยาดมแก้คัดจมูก / ยาทาระเหยบรรเทาอาการคัดจมูก ชนิดขี้ผึ้ง
กลุ่มยาแก้เมารถ เมาเรือ ยาเม็ดไดเมนไฮดริเนท
กลุ่มยาสำหรับโรคปาก และลำคอ ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอ
กลุ่มยาสำหรับโรคผิวหนัง ยารักษาหิดเหา / ยาทาแก้ผดผื่นตันคาลาไมน์
กลุ่มยาใส่แผล ล้างแผล ยาทิงเจอร์ไอโอดีน / แอลกอฮอล์ล้างแผล / น้ำเกลือล้างแผล
กลุ่มยาบำรุงร่างกาย ยาเม็ดวิตามันซี / ยาเม็ดวิตามินรวม
กลุ่มยาบรรเทาปวดลดไข้ ยาเม็ดพาราเซตามอล / พลาสเตอร์ติดบรรเทาอาการแก้ปวด
5. ห้ามจำหน่ายสินค้าไม่มี อย. มอก.
เครื่องหมาย อย. หมายถึงผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้การผ่านเกณฑ์การตรวจสอบจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับ 6 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และวัตถุเสพติดที่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
เครื่องหมาย มอก. คืออะไร ?
มอก. ย่อมาจากคำว่า มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายถึง ข้อกำหนดทางวิชาการที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้กำหนดเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดครอบคลุมสินค้า ได้แก่ สินค้าอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ สิ่งทอ และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น หากจำหน่ายสินค้าที่ไม่ผ่าน มอก. มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับสูงถึง 50,000 บาท
6. ห้ามจำหน่ายน้ำมันขวดแบ่งขาย เกินปริมาณกำหนด
ร้านจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงรายย่อย เป็นกิจการที่สามารถประกอบได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งหรือขออนุญาต แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542 มีหลักเกณฑ์ ดังนี้ร้านค้าที่หรือจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดสามารถจัดเก็บได้ปริมาณไม่เกินที่กำหนด
น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟมาก ได้แก่ น้ำมันเบนซิน น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ฯลฯ ร้านค้าจัดเก็บเพื่อจำหน่ายได้ไม่เกิน 40 ลิตร
น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟปานกลาง ได้แก่ น้ำมันก๊าด น้ำมันเชื้อเพลิง ร้านค้าจัดเก็บเพื่อจำหน่ายได้ไม่เกิน ลิตร
น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดไวไฟน้อย ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันหล่อลื่น ฯลฯ ร้านค้าจัดเก็บเพื่อจำหน่ายได้ไม่เกิน 454 ลิตร
7. ห้ามจำหน่ายสินค้าหนีภาษี
ผู้ที่ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปซื้อ รับจำนำ หรือรับของไว้ ซึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดฐานหลีกเลี่ยงอากรตามมาตรา 243 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ครึ่งเท่า แต่ไม่เกิน 4 เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม หรือทั้งจำทั้งปรับ
8. ห้ามจำหน่ายน้ำหอมขวดแก้วที่ไม่มีฉลาก
การจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางปลอม เช่น น้ำหอมขวดแก้วที่ไม่มีฉลาก แล้วแปะสติ๊กเกอร์แบรนด์ดัง การเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของแบรนด์นั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
การเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องดูแลร้านค้ามีสิ่งที่ต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และข้อที่ควรระวัง หากไม่อยากโดนจับ หรือ โดนปรับกัน หวังว่าพ่อค้าแม่ค้าที่อ่านบทความนี้จะได้ความรู้ที่นำไปใช้ในการดูแลร้านค้าและระวังไม่ให้ทำผิดกฎหมายโดยที่ไม่รู้ตัวกัน
แหล่งอ้างอิง
https://db.oryor.com
http://www.cbwmthai.org/scale.aspx
https://www.doeb.go.th/knowledge/new_oil_law.htm
แหล่งที่มา: https://www.rantiddao.com
ข่าวน่าสนใจ

กรมการปกครอง นำทีม บุกจับ บุหรี่เถื่อน 4 จุด กลางเมืองภูเก็ต
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนรองอธิบดีกรมการปกครอง นำทีม เปิดปฏิบัติการ “สิงห์สายลับ #บุหรี่เถื่อนภูเก็ต V.2” บุกจับบุหรี่เถื่อน 4 จุด กลางเมืองภูเก็ต เชื่อมโยงเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พบทำเป็นกระบวนการ ขนมาทางเรือท่องเที่ยว วันนี้ ( 20 เมษายน 2568 ) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกตรอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เปิดปฏิบัติการ “สิงห์สายลับ #บุหรี่เถื่อนภูเก็ต V.2” เพื่อปราบปรามขบวนการจำหน่ายและลักลอบขนส่งบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยมีนายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และ นายศักดิ์ชัย โรจน์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนรวมกว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นพร้อมกันใน 4 จุดสำคัญในเขตอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง ได้แก่ 1. ร้านประตูน้ำเงิน ตำบลรัษฎา2. ร้านหน้าการเคหะ ตำบลตลาดใหญ่3. ห้องพักเลขที่ 72/7 (ลักษณะคล้ายโกดัง) ตำบลตลาดใหญ่4. ร้านสามแยกบ้านสวน ถนนรัษฎานุสรณ์ ตำบลรัษฎา การดำเนินการครั้งนี้สืบเนื่องจากการได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการจำหน่ายและลักลอบขนส่งบุหรี่เถื่อนเป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีลักษณะเป็นเครือข่ายที่มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผ่านเรือนำเที่ยว โดยมีบุคคลอักษรย่อ บ. เป็นผู้ควบคุม และกระจายสินค้าให้กับร้านจำหน่ายในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงร้านของบุคคลที่ใช้ชื่อในวงการว่า “จ่าแว่น” และมีการขนส่งผ่านบริษัทเอกชนรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขายบุหรี่เถื่อนผ่านช่องทางออนไลน์และ LINE OpenChat ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยสถานที่จำหน่ายบางแห่งถูกดัดแปลงเป็นร้านค้าขนาดเล็ก มีช่องทางลับสำหรับหลบหนีและหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนมาก ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรัฐในเบื้องต้นกว่า 4 ล้านบาท และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 3 ราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 รวม 4 ฐานความผิด ได้แก่ 1. มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน2. ขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน3. นำเข้าหรือเคลื่อนย้ายของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยไม่ได้รับอนุญาต4. ช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดตามมาตรา 242 และ 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรฯ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองจะดำเนินการปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากการซื้อบุหรี่ผิดกฎหมายไม่เพียงแต่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี หากแต่ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะบุหรี่ปลอมซึ่งไม่มีมาตรฐานการผลิตและอาจมีสารอันตรายปะปนในปริมาณสูง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว หรือได้รับความเดือดร้อนจากกรณีอื่นใด สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/ 📢 ช่วยกันแจ้งเบาะแสบุหรี่เถื่อนค่ะ! 📢ร่วมเป็นหูเป็นตา ปกปิดตัวตนผู้แจ้ง 100% เพียงแจ้งเบาะแส คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องสังคมไทย 👉 ช่องทางการแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมาย 👉 แจ้งเบาะแสผ่านสมาคมการค้ายาสูบไทย https://ttta.or.th/report-form 👉 สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 (24 ชั่วโมง) 👉 อีเมล์ excise_hotline@excise.go.th 👉 ศูนย์ดำรงธรรม: 1567
อ่านต่อ
‘ฝ่ายปกครอง’ ลุยจับ ‘บุหรี่เถื่อน’ เครือข่ายผู้มีอิทธิพลในภูเก็ต
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง จัดชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจน์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมกว่า 50 นาย ปูพรมเมืองภูเก็ตบุกจับร้านขายบุหรี่เถื่อนและขบวนการลักลอบขนส่งบุหรี่เถื่อนทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ 1. ร้านประตูน้ำเงิน ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต2. ร้านหน้าการเคหะ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต3. ห้องพัก 72/7 (สถานที่เก็บบุหรี่ผิดกฎหมาย) ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต4. ร้านสามแยกบ้านสวน ถนนรัษฎานุสรณ์ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นมาจาก กรมการปกครอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวภูเก็ตว่ามีการลักลอบจำหน่ายและขนส่งบุหรี่เถื่อนเป็นจำนวนมาก โดยจากการสืบสวนพบว่า การจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นกระบวนการผ่านทางเรือนำเที่ยว ซึ่งมีเจ๊ใหญ่ อักษรย่อ บ. เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และพบเป็นเครือข่ายร้านจำหน่ายบุหรี่เถื่อนของบุคคลที่ใช้ชื่อในวงการนามว่า “จ่าแว่น” ซึ่งมีการสั่งของและขนส่งผ่านทางบริษัทเอกชนชื่อดังรายหนึ่ง โดยมีเครือข่ายต้นทางมาจากพื้นที่ภาคใต้ปลายด้ามขวาน เชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้ดำเนินการจับกุม ในช่วงปีที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการสืบสวน พบพฤติการณ์ของขบวนการขายบุหรี่เถื่อนดังกล่าว เป็นการเปิดร้านโดยใช้ห้องขนาดเล็ก มีเพียงแค่ช่องบานเลื่อนขนาดพอที่จะเห็นกันได้ เพื่อทำการลักลอบขายบุหรี่เถื่อนให้กับลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภคบุหรี่เถื่อนโดยตรง ซึ่งจากการสืบสวนยังปรากฎข้อมูลในทางลับว่าเครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายของผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครสภาท้องถิ่น ที่จะดำเนินการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ โดยเครือข่ายนี้จะมีความระมัดระวัง มีการอำพราง และมีการวางแผนการหลบหนีไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการกระจายสินค้าบุหรี่เถื่อนไปยังลูกค้าทั่วประเทศ โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ LINE OpenChat ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก จากการเข้าตรวจค้นห้องแถวบริเวณหน้าการเคหะ และจุดอื่นอีกจำนวน 3 จุด พบว่าด้านในเป็นห้องขนาดเล็กมีบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง และมีช่องลับที่ใช้สำหรับเป็นช่องทางการหลบหนี ทั้งพบว่า ด้านหลังร้านจำหน่ายบุหรี่หน้าการเคหะดังกล่าว ปรากฏมีการใช้ห้องพักชั้น 1 ของแฟลตการเคหะ ขนาดกว้างประมาณ 30 ตร.ม. มีการล็อคกุญแจห้องไว้อย่างแน่นหนา เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บบุหรี่ผิดกฎหมาย จากการจับกุมตรวจพบของกลางเป็นบุหรี่เถื่อน ประเมินมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นแล้วพบว่ารัฐต้องสูญเสียค่าปรับทางภาษีประมาณ 4 ล้านบาท และจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 3 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิด ฐาน 1. มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน 2. ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน 3. นำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร4. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ทั้งนี้ นายรณรงค์ กล่าวว่า ฝากถึงประชาชนขอให้มีความเชื่อมั่นว่ากรมการปกครอง จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง การที่ประชาชนให้การสนับสนุนโดยการซื้อบุหรี่ปลอมนั้น จะทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการค้ายาสูบที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นจำนวนมหาศาล และไม่ว่าจะสูบบุหรี่แบบใด ย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเองและผู้คนรอบข้าง แต่หากสูบบุหรี่ปลอม ก็ยิ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นไปอีก และขอความร่วมมือประชาชนทุกท่าน หากพบเห็นเบาะแส หรือต้องการแจ้งให้ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ขอบคุณที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/
อ่านต่อ
บุหรี่เถื่อนออนไลน์ระบาด ส. ค้ายาสูบไทย ชง 2 มาตรการเด็ดสกัดพัสดุเถื่อน
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนสมาคมการค้ายาสูบไทย ชี้บุหรี่เถื่อนระบาดสูง ใน กทม.และปริมณฑล เพราะสั่งออนไลน์ส่งพัสดุถึงบ้าน วอนรัฐเร่งปิดกั้นช่องทางออนไลน์และกำชับบริษัทขนส่งพัสดุทำงานเชิงรุก จากกรณีกรมสรรพสามิตลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน 2 บริษัทขนส่งเพื่อการตรวจสอบ ยึด และอายัดสินค้าผิดกฎหมาย ตัดวงจรสินค้าเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุหรี่และสุรา ซึ่งพบเป็นสินค้าที่ถูกนำส่งผ่านพัสดุที่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษีสรรพสามิตบ่อยที่สุด นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผอ.สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า บุหรี่เป็นสินค้าควบคุม ห้ามขายออนไลน์ แต่พบบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ปลอมขายจำนวนมากบนสื่อโซเชียล เช่น X (Twitter), Facebook และเว็บไซต์ ในช่วง ก.ค. – ธ.ค. 2566 พบการสนทนาเกี่ยวกับบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้น 181% ทำให้เยาวชนเข้าถึงง่ายขึ้น เป็นการละเมิด พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ที่ห้ามขายและโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ตามบทกฎหมายแล้วการซื้อขายบุหรี่เถื่อนมีความผิด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้รับทราบข้อมูลจากกรมสรรพสามิตว่าการตรวจค้นศูนย์ไปรษณีย์วังน้อย ศรีราชา และหลักสี่ ที่เป็นศูนย์คัดแยกพัสดุก่อนที่จะส่งเข้าสู่กรุงเทพฯ พบบุหรี่เถื่อนที่ถูกบรรจุกล่องส่งมายังปลายทางให้ลูกค้า ระบุชื่อผู้รับในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล โดยต้นทางของกล่องพัสดุเหล่านั้นมาจากจังหวัดทางภาคใต้ เช่น สตูล สงขลา พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความชุกของบุหรี่เถื่อนสูงที่สุดในประเทศ โดยสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจซองบุหรี่เปล่าไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ระบุว่ากรุงเทพและปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตของบุหรี่เถื่อนสูง โดยมีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 30 ซึ่งสมาคมฯ เคยหารือกับผู้ให้บริการขนส่งพัสดุชั้นนำเกี่ยวกับแนวทางป้องกันการลักลอบส่งสินค้าผิดกฎหมายมาก่อนหน้านี้ และเห็นว่าภาครัฐและเอกชนควรเพิ่มการทำงานเชิงรุก 2 แนวทาง ได้แก่ ขอบคุณที่มา: https://www.thairath.co.th/
อ่านต่อ
ร่วมต้านบุหรี่เถื่อน! กรมสรรพสามิตรับหนังสือแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมายจากสมาคมการค้ายาสูบไทย
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนสมาคมการค้ายาสูบไทย ทำหนังสือถึงกรมสรรพสามิจต เพื่อส่งมอบเอกสารหลักฐานการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายที่ได้รับผ่านทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ ในเดือนมกราคม 2568 จำนวน 35 รายงาน ซึ่งทุกๆ การรายงานเบาะแสเข้ามาจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนผู้เจ้งเบาะแส ขอให้สมาชิกวางใจ ร่วมกันส่งเบาะแสมาได้เสมอ สมาคมฯ จะดำเนินการสรุปและส่งข้อมูลให้กรมสรรพสามิต รวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ เป็นประจำทุกเดือน บุหรี่เถื่อนส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านค้าปลีกที่จำหน่ายบุหรี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้สูญเสียรายได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเข้าถึงของเยาวชน และส่งผลต่อรายได้จากภาษีของรัฐที่ใช้พัฒนาประเทศ ทางสมาคมการค้ายาสูบไทยจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการเพื่อปราบปรามบุหรี่เถื่อน และบรรเทาความเดือดร้อนของร้านค้ายาสูบที่ถูกกฎหมาย หากร้านค้าหรือประชาชนท่านใดทราบเบาะแส หรือ พบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่เถื่อน สามารถแจ้งได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมล์ excise_hotline@excise.go.th หรือ ช่องทางออนไลน์ของสมาคมการค้ายาสูบไทย https://ttta.or.th/report-form
อ่านต่อสมัครสมาชิก
สำหรับผู้ประกอบกิจการการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ หรือวิสาหกิจ ในทางการค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้า ผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยตรง อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 200 บาท และค่าบำรุงสมาคม 100 บาท / 2 ปี (ปีละ 50 บาท เก็บทุกๆ สองปี)สมาชิกประเภทวิสามัญ สำหรับผู้มีความสนใจหรือมีความรู้เกี่ยวกับยาสูบหรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือ ผู้ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงิน การขนส่งยาสูบ หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือธุรกิจใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับยาสูบ หรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 1,000 บาท และค่าบำรุงสมาคม 1,000 ต่อปี
แจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมาย
พบเห็นการซื้อขายบุหรี่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ของทางสมาคม และสมาคมจะนำข้อมูลเหล่านี้ยื่นต่อหน่อยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่แจ้งเบาะแสสามารถติดตามผลการแจ้งได้โดยใส่รหัสอ้างอิงที่ได้รับแจ้ง
เบาะแส