ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อน

กรมการปกครอง นำทีม บุกจับ บุหรี่เถื่อน 4 จุด กลางเมืองภูเก็ต
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนรองอธิบดีกรมการปกครอง นำทีม เปิดปฏิบัติการ “สิงห์สายลับ #บุหรี่เถื่อนภูเก็ต V.2” บุกจับบุหรี่เถื่อน 4 จุด กลางเมืองภูเก็ต เชื่อมโยงเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พบทำเป็นกระบวนการ ขนมาทางเรือท่องเที่ยว วันนี้ ( 20 เมษายน 2568 ) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกตรอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เปิดปฏิบัติการ “สิงห์สายลับ #บุหรี่เถื่อนภูเก็ต V.2” เพื่อปราบปรามขบวนการจำหน่ายและลักลอบขนส่งบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยมีนายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และ นายศักดิ์ชัย โรจน์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนรวมกว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นพร้อมกันใน 4 จุดสำคัญในเขตอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง ได้แก่ 1. ร้านประตูน้ำเงิน ตำบลรัษฎา2. ร้านหน้าการเคหะ ตำบลตลาดใหญ่3. ห้องพักเลขที่ 72/7 (ลักษณะคล้ายโกดัง) ตำบลตลาดใหญ่4. ร้านสามแยกบ้านสวน ถนนรัษฎานุสรณ์ ตำบลรัษฎา การดำเนินการครั้งนี้สืบเนื่องจากการได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการจำหน่ายและลักลอบขนส่งบุหรี่เถื่อนเป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีลักษณะเป็นเครือข่ายที่มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผ่านเรือนำเที่ยว โดยมีบุคคลอักษรย่อ บ. เป็นผู้ควบคุม และกระจายสินค้าให้กับร้านจำหน่ายในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงร้านของบุคคลที่ใช้ชื่อในวงการว่า “จ่าแว่น” และมีการขนส่งผ่านบริษัทเอกชนรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขายบุหรี่เถื่อนผ่านช่องทางออนไลน์และ LINE OpenChat ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยสถานที่จำหน่ายบางแห่งถูกดัดแปลงเป็นร้านค้าขนาดเล็ก มีช่องทางลับสำหรับหลบหนีและหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนมาก ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรัฐในเบื้องต้นกว่า 4 ล้านบาท และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 3 ราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 รวม 4 ฐานความผิด ได้แก่ 1. มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน2. ขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน3. นำเข้าหรือเคลื่อนย้ายของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยไม่ได้รับอนุญาต4. ช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดตามมาตรา 242 และ 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรฯ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองจะดำเนินการปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากการซื้อบุหรี่ผิดกฎหมายไม่เพียงแต่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษี หากแต่ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะบุหรี่ปลอมซึ่งไม่มีมาตรฐานการผลิตและอาจมีสารอันตรายปะปนในปริมาณสูง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว หรือได้รับความเดือดร้อนจากกรณีอื่นใด สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/ 📢 ช่วยกันแจ้งเบาะแสบุหรี่เถื่อนค่ะ! 📢ร่วมเป็นหูเป็นตา ปกปิดตัวตนผู้แจ้ง 100% เพียงแจ้งเบาะแส คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องสังคมไทย 👉 ช่องทางการแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมาย 👉 แจ้งเบาะแสผ่านสมาคมการค้ายาสูบไทย https://ttta.or.th/report-form 👉 สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 (24 ชั่วโมง) 👉 อีเมล์ excise_hotline@excise.go.th 👉 ศูนย์ดำรงธรรม: 1567
อ่านต่อ
‘ฝ่ายปกครอง’ ลุยจับ ‘บุหรี่เถื่อน’ เครือข่ายผู้มีอิทธิพลในภูเก็ต
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง จัดชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจน์รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน รวมกว่า 50 นาย ปูพรมเมืองภูเก็ตบุกจับร้านขายบุหรี่เถื่อนและขบวนการลักลอบขนส่งบุหรี่เถื่อนทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ 1. ร้านประตูน้ำเงิน ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต2. ร้านหน้าการเคหะ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต3. ห้องพัก 72/7 (สถานที่เก็บบุหรี่ผิดกฎหมาย) ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต4. ร้านสามแยกบ้านสวน ถนนรัษฎานุสรณ์ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นมาจาก กรมการปกครอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวภูเก็ตว่ามีการลักลอบจำหน่ายและขนส่งบุหรี่เถื่อนเป็นจำนวนมาก โดยจากการสืบสวนพบว่า การจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต มีการลักลอบนำเข้ามาเป็นกระบวนการผ่านทางเรือนำเที่ยว ซึ่งมีเจ๊ใหญ่ อักษรย่อ บ. เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และพบเป็นเครือข่ายร้านจำหน่ายบุหรี่เถื่อนของบุคคลที่ใช้ชื่อในวงการนามว่า “จ่าแว่น” ซึ่งมีการสั่งของและขนส่งผ่านทางบริษัทเอกชนชื่อดังรายหนึ่ง โดยมีเครือข่ายต้นทางมาจากพื้นที่ภาคใต้ปลายด้ามขวาน เชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้ดำเนินการจับกุม ในช่วงปีที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการสืบสวน พบพฤติการณ์ของขบวนการขายบุหรี่เถื่อนดังกล่าว เป็นการเปิดร้านโดยใช้ห้องขนาดเล็ก มีเพียงแค่ช่องบานเลื่อนขนาดพอที่จะเห็นกันได้ เพื่อทำการลักลอบขายบุหรี่เถื่อนให้กับลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภคบุหรี่เถื่อนโดยตรง ซึ่งจากการสืบสวนยังปรากฎข้อมูลในทางลับว่าเครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายของผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครสภาท้องถิ่น ที่จะดำเนินการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ โดยเครือข่ายนี้จะมีความระมัดระวัง มีการอำพราง และมีการวางแผนการหลบหนีไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการกระจายสินค้าบุหรี่เถื่อนไปยังลูกค้าทั่วประเทศ โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ LINE OpenChat ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก จากการเข้าตรวจค้นห้องแถวบริเวณหน้าการเคหะ และจุดอื่นอีกจำนวน 3 จุด พบว่าด้านในเป็นห้องขนาดเล็กมีบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง และมีช่องลับที่ใช้สำหรับเป็นช่องทางการหลบหนี ทั้งพบว่า ด้านหลังร้านจำหน่ายบุหรี่หน้าการเคหะดังกล่าว ปรากฏมีการใช้ห้องพักชั้น 1 ของแฟลตการเคหะ ขนาดกว้างประมาณ 30 ตร.ม. มีการล็อคกุญแจห้องไว้อย่างแน่นหนา เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บบุหรี่ผิดกฎหมาย จากการจับกุมตรวจพบของกลางเป็นบุหรี่เถื่อน ประเมินมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นแล้วพบว่ารัฐต้องสูญเสียค่าปรับทางภาษีประมาณ 4 ล้านบาท และจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 3 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิด ฐาน 1. มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน 2. ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน 3. นำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร4. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ทั้งนี้ นายรณรงค์ กล่าวว่า ฝากถึงประชาชนขอให้มีความเชื่อมั่นว่ากรมการปกครอง จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง การที่ประชาชนให้การสนับสนุนโดยการซื้อบุหรี่ปลอมนั้น จะทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการค้ายาสูบที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นจำนวนมหาศาล และไม่ว่าจะสูบบุหรี่แบบใด ย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเองและผู้คนรอบข้าง แต่หากสูบบุหรี่ปลอม ก็ยิ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นไปอีก และขอความร่วมมือประชาชนทุกท่าน หากพบเห็นเบาะแส หรือต้องการแจ้งให้ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 ขอบคุณที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/
อ่านต่อ
บุหรี่เถื่อนออนไลน์ระบาด ส. ค้ายาสูบไทย ชง 2 มาตรการเด็ดสกัดพัสดุเถื่อน
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนสมาคมการค้ายาสูบไทย ชี้บุหรี่เถื่อนระบาดสูง ใน กทม.และปริมณฑล เพราะสั่งออนไลน์ส่งพัสดุถึงบ้าน วอนรัฐเร่งปิดกั้นช่องทางออนไลน์และกำชับบริษัทขนส่งพัสดุทำงานเชิงรุก จากกรณีกรมสรรพสามิตลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน 2 บริษัทขนส่งเพื่อการตรวจสอบ ยึด และอายัดสินค้าผิดกฎหมาย ตัดวงจรสินค้าเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุหรี่และสุรา ซึ่งพบเป็นสินค้าที่ถูกนำส่งผ่านพัสดุที่มีเจตนาหลบเลี่ยงภาษีสรรพสามิตบ่อยที่สุด นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผอ.สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า บุหรี่เป็นสินค้าควบคุม ห้ามขายออนไลน์ แต่พบบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ปลอมขายจำนวนมากบนสื่อโซเชียล เช่น X (Twitter), Facebook และเว็บไซต์ ในช่วง ก.ค. – ธ.ค. 2566 พบการสนทนาเกี่ยวกับบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้น 181% ทำให้เยาวชนเข้าถึงง่ายขึ้น เป็นการละเมิด พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ที่ห้ามขายและโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ตามบทกฎหมายแล้วการซื้อขายบุหรี่เถื่อนมีความผิด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้รับทราบข้อมูลจากกรมสรรพสามิตว่าการตรวจค้นศูนย์ไปรษณีย์วังน้อย ศรีราชา และหลักสี่ ที่เป็นศูนย์คัดแยกพัสดุก่อนที่จะส่งเข้าสู่กรุงเทพฯ พบบุหรี่เถื่อนที่ถูกบรรจุกล่องส่งมายังปลายทางให้ลูกค้า ระบุชื่อผู้รับในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล โดยต้นทางของกล่องพัสดุเหล่านั้นมาจากจังหวัดทางภาคใต้ เช่น สตูล สงขลา พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความชุกของบุหรี่เถื่อนสูงที่สุดในประเทศ โดยสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจซองบุหรี่เปล่าไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ระบุว่ากรุงเทพและปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตของบุหรี่เถื่อนสูง โดยมีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 30 ซึ่งสมาคมฯ เคยหารือกับผู้ให้บริการขนส่งพัสดุชั้นนำเกี่ยวกับแนวทางป้องกันการลักลอบส่งสินค้าผิดกฎหมายมาก่อนหน้านี้ และเห็นว่าภาครัฐและเอกชนควรเพิ่มการทำงานเชิงรุก 2 แนวทาง ได้แก่ ขอบคุณที่มา: https://www.thairath.co.th/
อ่านต่อ
ร่วมต้านบุหรี่เถื่อน! กรมสรรพสามิตรับหนังสือแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมายจากสมาคมการค้ายาสูบไทย
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนสมาคมการค้ายาสูบไทย ทำหนังสือถึงกรมสรรพสามิจต เพื่อส่งมอบเอกสารหลักฐานการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการจำหน่ายบุหรี่ผิดกฎหมายที่ได้รับผ่านทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ ในเดือนมกราคม 2568 จำนวน 35 รายงาน ซึ่งทุกๆ การรายงานเบาะแสเข้ามาจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนผู้เจ้งเบาะแส ขอให้สมาชิกวางใจ ร่วมกันส่งเบาะแสมาได้เสมอ สมาคมฯ จะดำเนินการสรุปและส่งข้อมูลให้กรมสรรพสามิต รวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ เป็นประจำทุกเดือน บุหรี่เถื่อนส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านค้าปลีกที่จำหน่ายบุหรี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้สูญเสียรายได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเข้าถึงของเยาวชน และส่งผลต่อรายได้จากภาษีของรัฐที่ใช้พัฒนาประเทศ ทางสมาคมการค้ายาสูบไทยจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการเพื่อปราบปรามบุหรี่เถื่อน และบรรเทาความเดือดร้อนของร้านค้ายาสูบที่ถูกกฎหมาย หากร้านค้าหรือประชาชนท่านใดทราบเบาะแส หรือ พบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่เถื่อน สามารถแจ้งได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมล์ excise_hotline@excise.go.th หรือ ช่องทางออนไลน์ของสมาคมการค้ายาสูบไทย https://ttta.or.th/report-form
อ่านต่อ
บุหรี่เถื่อนยังรุนแรง! สหภาพยาสูบวอนรัฐซีลชายแดน จับเข่าคุยประเทศต้นทาง
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนผลการสำรวจซองบุหรี่เปล่า ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เพื่อดูแนวโน้มอัตราการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายของประเทศไทยพบว่า อัตราการบริโภคบุหรี่ที่มิได้เสียภาษีอยู่ที่ 25.4% ซึ่งทรงตัวจากการสำรวจในไตรมาสที่ 1 ของปีเดียวกันที่อยู่ที่ 25.5% โดยพบว่า จังหวัดที่มีอัตราการบริโภคบุหรี่ที่มิได้เสียภาษีสูงที่สุดในประเทศไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ตอนล่าง พบมากที่สุดใน จังหวัดสตูล (97%) สงขลา (88%) พัทลุง (78%) ภูเก็ต (72%) นครศรีธรรมราช (68%) ระนอง (65%) ตามด้วยจังหวัดในภาคกลางอย่าง นนทบุรี (49%) สมุทรปราการ (43%) กรุงเทพมหานคร (39%) "สตูล"แชมป์อันดับหนึ่งบุหรี่เถื่อนสูงสุด การสำรวจในครั้งนี้พบว่าจังหวัดสตูลมีการเติบโตของการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่รุนแรงมากขึ้น โดยขยับแซงหน้าสงขลาขึ้นมาครองอันดับหนึ่งพื้นที่ที่มีการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่สูงที่สุดของประเทศไทย และยังพบการเติบโตอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เมืองหลวงและเขตพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีการกระจายตัวของการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายที่เข้มข้นอยู่ สิ่งที่น่าสนใจของการสำรวจในครั้งนี้คือ การทะลักของบุหรี่ผิดกฎหมายในภาคตะวันตกของประเทศไทย โดยการสำรวจพบว่าจังหวัดราชบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี มีแนวโน้มการบริโภคบุหรี่จากต่างประเทศที่มิได้เสียภาษีเพิ่มมากขึ้นกว่า 300% จากการสำรวจครั้งก่อน นายสุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนอุตสาหกรรมยาสูบขอบคุณหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานที่ปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นตลอดปี 2567 แม้ผลที่ออกมาจะยังทรงตัวและบุหรี่ที่มิได้เสียภาษียังอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่เชื่อว่าทุกหน่วยงานพร้อมจะเดินหน้าสู้กับบุหรี่เถื่อนไปด้วยกันต่อในปี 2568 นี้ ผลที่ออกมายืนยันได้อย่างหนึ่งว่าการปราบปรามในประเทศเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ เพราะยังคงมีช่องว่างใหม่ๆ ที่ทำให้บุหรี่เถื่อนทะลักเข้ามาในประเทศไทยได้ วอนรัฐบาลซีลชายแดนอย่างเข้มข้น นายสุเทพ กล่าวเสริมว่ามีข้อมูลว่ามีการทะลักของบุหรี่เถื่อนตามแนวชายแดนภาคตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชา เช่น จันทบุรี ตราด สระแก้ว บุหรี่เถื่อนเข้ามาทางภาคใต้ และยังมีบุหรี่ผ่านแดนที่มาใช้ไทยเป็นทางผ่านไปประเทศที่สามแต่กลับนำสินค้าวกกลับเข้ามาขายในประเทศหลังผ่านพิธีการศุลกากรในภาคใต้ บุหรี่เถื่อนจึงเป็นเรื่องระดับภูมิภาค ใหญ่เกินกว่าที่เราจะจัดการเองในประเทศเพียงอย่างเดียว จึงอยากขอร้องรัฐบาลซีลชายแดนอย่างเข้มข้น ยกระดับการปรามปรามในประเทศอย่างจริงจัง และจัดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อหยุดยั้งการทะลักของบุหรี่เถื่อนที่ไหลเวียนอยู่ในภูมิภาค เช่นเดียวกับกรณีแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่นอกประเทศ ขอบคุณที่มา บทความและภาพประกอบ https://www.bangkokbiznews.com
อ่านต่อ
เสียงสะท้อนจากโซเชียล ร้านค้าโชห่วยโอดของขายยากเพราะบุหรี่เถื่อนทะลัก
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนเพจโชห่วยเผยปัญหาบุหรี่เถื่อนระบาดหนักตลอดปี 2567 ทำยอดขายบุหรี่และสินค้าอื่นๆ ของร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายทั่วไทย โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กและโชห่วยรายย่อย ลดฮวบ เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อบุหรี่เถื่อนจากร้านค้าออนไลน์ และร้านขายบุหรี่ผิดกฎหมายในท้องถิ่นที่มีราคาถูกกว่า สมาคมการค้ายาสูบไทยย้ำไม่ทอดทิ้งผู้ประกอบการรายย่อย วอนภาครัฐจัดการปัญหาบุหรี่เถื่อนเป็นวาระแห่งชาติ สมาคมการค้ายาสูบไทย สำรวจความคิดเห็นร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายบนกลุ่มร้านค้า “รวมพลคนโชห่วย-ร้านของชำ” บน Facebook ที่มีสมาชิกกว่า 1.9 แสนคน เกี่ยวกับสถานการณ์บุหรี่เถื่อนพบว่าร้านค้าโชห่วยจำนวนมากแสดงความเห็นตรงกันว่าปัจจุบันบุหรี่ถูกกฎหมายขายได้ลดลงมาก เนื่องจากปัญหาการทะลักของบุหรี่หนีภาษีตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และในท้องถิ่นต่างๆ ผู้บริโภคต่างทราบดีว่าสามารถหาซื้อได้จากที่ไหน จึงหันไปซื้อบุหรี่เถื่อนเพราะมีราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัว และยังสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย ซ้ำร้าย ร้านค้าถูกกฎหมายบางร้านยังถูกร้านบุหรี่เถื่อนซัดทอดให้ถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐด้วย เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง แสดงความเห็นว่า “ตอนนี้ขายไม่ดีเหมือนกัน มีบุหรี่เถื่อนเข้ามาเยอะแยะวันนี้ก็มีลูกค้าเพิ่งซื้อเข้ามาก็เลยถามเขาซื้อมาเป็นคอตตอนเลย เขาบอก 280 ตกซองละ 28 บาทเองเราเลยแทบจะไม่ได้ขายเพราะเขาซื้อบุหรี่เถื่อนกันเยอะ” สอดคล้องกับร้านค้าอีกราย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า “ตั้งแต่ครั้งปรับราคา บุหรี่เถื่อนก็ทะลักค่ะ แถวบ้านบอกปากต่อปากกัน (ได้ยินลูกค้าคุยกันหน้าร้าน) ราคาต่อซองยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของบุหรี่ที่เราขายด้วยซ้ำ เคยไปแจ้งความเด็กขโมยของ ส่องเฟสยังโพสขายเป็นคอตตอนบอกตำรวจก็ไม่รู้ว่าเขาดำเนินการอย่างไรมั้ยนะคะ” ด้านนางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “สมาคมฯ เห็นใจผู้ประกอบการร้านค้าที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาบุหรี่เถื่อน เนื่องจากส่งผลกระทบต่ออาชีพการค้าขาย หลายคนตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาครัฐในการปราบปรามบุหรี่เถื่อน เพราะร้านค้าไม่ทราบว่าผู้ขายบุหรี่เถื่อนมีโทษอย่างไร พวกเขาไม่เคยเห็นการดำเนินคดีอย่างเป็นรูปธรรมกับผู้กระทำผิดเหล่านี้ ตลอดปี 2567 สมาคมฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังทุกส่วนราชการแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดความรุนแรง “สมาคมฯ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมีความชัดเจนในการปราบปรามและสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้ผู้บงการ ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำเข้าและขายบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติเพราะทำลายคนตัวเล็กๆ อย่างร้านโชห่วย เป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจชองชาติและยังเป็นปัญหาเศรษฐกิจใต้ดินที่รัฐบาลประกาศว่าจะจัดการด้วย” การสำรวจของอุตสาหกรรมพบว่าอัตราการบริโภคบุหรี่เถื่อนในไทยยังคงตัวที่ราว 25.5% เพราะแม้จะมีการปราบปรามต่อเนื่อง แต่ช่องโหว่ของกฎหมายก็ยังมีอยู่และเปิดช่องให้เกิดการลักลอบนำเข้าได้เรื่อยๆ จนเป็นที่น่าสงสัยว่ามีการใช้ช่องว่างการเป็นสินค้าผ่านแดนและสินค้าเข้าเขตปลอดอากรที่เข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ และภาครัฐควรเร่งแก้กฎหมายอุดช่องว่างเหล่านี้ ขอบคุณที่มา บทความและภพประกอบ https://siamrath.co.th/
อ่านต่อ
บุหรี่เถื่อนเติบโต ทำร้ายร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมาย
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนการค้าบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุมากมาย เช่น ราคาบุหรี่ถูกกฎหมายที่สูงขึ้น การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มงวด และการเข้าถึงบุหรี่เถื่อนที่ง่ายขึ้น โดยสามารถซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์พร้อมบริการจัดส่งถึงที่ ส่งผลให้สัดส่วนการบริโภคบุหรี่เถื่อนในต้นปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 25% หรือเท่ากับทุก 4 ซองของการบริโภค จะมี 1 ซองเป็นบุหรี่เถื่อน ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ที่สัดส่วนการบริโภคบุหรี่เถื่อนอยู่ที่ประมาณ 10% บุหรี่เถื่อนเหล่านี้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เนื่องจากบุหรี่เถื่อนมีราคาถูกกว่า ไม่มีภาพหรือข้อความเตือนถึงอันตรายต่อสุขภาพ และยังไม่สามารถตรวจสอบอายุของผู้ซื้อได้ ซึ่งเป็นเหตุให้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ของรัฐไม่ได้ผล นอกขากนี้ ยังทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ ไปอีกกว่า 23,000 ล้านบาทต่อปี หากสามารถนำรายได้ภาษีที่สูญเสียไปนี้กลับเข้าสู่ประเทศได้ เราจะมีงบประมาณเพียงพอสำหรับการสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 800-1,000 เตียงได้ถึง 2 แห่ง หรือสามารถนำไปพัฒนาโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชนได้อีกมากมาย ที่สำคัญกว่านั้น การขยายตัวของบุหรี่เถื่อนยังส่งผลโดยตรงต่อร้านค้าจำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 500,000 แห่งทั่วประเทศ เนื่องจากลูกค้าหันไปซื้อบุหรี่เถื่อน ทำให้ยอดขายบุหรี่ของร้านค้าลดลงกว่า 50% เมื่อยอดขายบุหรี่ลดลง ร้านค้าก็สูญเสียโอกาสขายสินค้าชนิดอื่นไปด้วย แม้รายได้จากการขายบุหรี่คิดเป็นประมาณ 20-30% ของรายได้รวมต่อวัน แต่เมื่อรวมกับรายได้อื่นๆ ที่ร้านค้าเสียโอกาสในการขายไป ก็ส่งผลให้ร้านค้ามีรายได้ลดลงเฉลี่ยนประมาณ 700-1,400 บาทต่อวัน รวมเป็นความเสียหายถึง 2,200 ล้านบาทต่อปี ผลกระทบทางตรงอีกประการที่ร้านค้าพบเจอเป็นประจำคือการที่ขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนมักนำบุหรี่ปลอมมาหลอกขายให้ร้านค้ารับซื้อไว้ ซึ่งหากร้านค้าไม่สามารถตรวจสอบได้ ก็อาจซื้อบุหรี่ปลอมมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ต้องรับโทษทางกฎหมายและเสียเงินซื้อสินค้าที่ไม่สามารถขายได้ ช่องทางการแจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมายแจ้งเบาะแสผ่านสมาคมการค้ายาสูบไทย http://ttta.or.th/report-formสายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.thWebsite แจ้งเบาะแส กรมสรรพสามิต แจ้งเบาะแส กรมสรรพสามิตศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วนโทร 1567
อ่านต่อ
รู้ได้ไง บุหรี่ซองไหนเป็นบุหรี่ผิดกฎหมายและบุหรี่ปลอม
ผลกระทบจากบุหรี่เถื่อนบุหรี่ไม่เสียภาษี (Untaxed Cigarette) คือบุหรี่ที่ถูกลักลอบนำเข้าเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้มีการชำระภาษีอากรตามที่กฎหมายไทยกำหนด บุหรี่ไม่เสียภาษี (untaxed cigarette) ที่พบมากในประเทศไทย สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ บุหรี่เถื่อน (Illicit Whites) คือ บุหรี่ที่ถูกลักลอบนำเข้ามาขายในประเทศโดยไม่ผ่านการชำระภาษีศุลกากรหรือภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายของประเทศไทย บุหรี่เหล่านี้อาจจะเป็นสินค้าจริงที่ถูกผลิตจากต่างประเทศ เพื่อใช้บริโภคในต่างประเทศ แต่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่เสียภาษี หรืออาจจะเป็นบุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วนราว 24.8% ของการบริโภคบุหรี่ในประเทศทั้งหมด บุหรี่ปลอม (Counterfeit) คือ บุหรี่ที่ผลิตขึ้นโดยปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าและบรรจุภัณฑ์ให้ดูเหมือนแบรนด์ที่มีชื่อเสียง บุหรี่ปลอมพวกนี้ถูกผลิตขึ้นโดยไม่มีมาตรฐาน คิดเป็นสัดส่วนราว 0.8% ของการบริโภคบุหรี่ในประเทศทั้งหมด การจะแยกแยะว่าบุหรี่ซองใดเป็นบุหรี่ที่ถูกกฎหมายหรือบุหรี่ปลอมอาจเป็นเรื่องยาก ทำให้ร้านค้าอาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนที่นำสินค้าไม่ถูกกฎหมายมาจำหน่าย ซึ่งนอกจากร้านค้าจะต้องเสียเงินจากการรับสินค้าผิดกฎหมายเอาไว้แต่ไม่สามารถจำหน่ายต่อได้แล้ว ยังมีความผิดตาม มีโทษจำคุก 1 เดือน หรือโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 5 ถึง 15 เท่าของจำนวนภาษีสรรพสามิตที่ต้องชำระ หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้านค้าสามารถหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายโดยปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ไม่ซื้อบุหรี่จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้ขายที่ไม่ใช่ตัวแทนของบริษัท ร้านค้าออนไลน์ รถเร่ขายสินค้าเป็นครั้งคราว ตั้งข้อสงสัยเมื่อ ผู้ขายเหล่านี้เสนอราคาพิเศษที่แตกต่างจากราคาในท้องตลาด และขอตรวจสอบบัตรพนักงานตรวจสอบการปลอมแปลงบุหรี่เบื้องต้นได้โดยการสแกน QR CODE จากแสตมป์บนซองบุหรี่เพื่อดูรายละเอียดสินค้าและข้อมูลการชำระภาษีว่าตรงกับสินค้าหรือไม่กรณีมีข้อมูลเกี่ยวกับการค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย แจ้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วนโทร 1567 หรือช่องทางการแจ้งเบาะแสของสมาคมการค้ายาสูบไทย http://ttta.or.th/report-form ช่องทางการแจ้งเบาะแสบุหรีผิดกฎหมายแจ้งเบาะแสผ่านสมาคมการค้ายาสูบไทย http://ttta.or.th/report-form
อ่านต่อสมัครสมาชิก
สำหรับผู้ประกอบกิจการการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ หรือวิสาหกิจ ในทางการค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้า ผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยตรง อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 200 บาท และค่าบำรุงสมาคม 100 บาท / 2 ปี (ปีละ 50 บาท เก็บทุกๆ สองปี)สมาชิกประเภทวิสามัญ สำหรับผู้มีความสนใจหรือมีความรู้เกี่ยวกับยาสูบหรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือ ผู้ประกอบวิสาหกิจในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงิน การขนส่งยาสูบ หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือธุรกิจใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับยาสูบ หรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ อัตราค่าลงทะเบียนแรกเข้า 1,000 บาท และค่าบำรุงสมาคม 1,000 ต่อปี
แจ้งเบาะแสบุหรี่ผิดกฎหมาย
พบเห็นการซื้อขายบุหรี่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ของทางสมาคม และสมาคมจะนำข้อมูลเหล่านี้ยื่นต่อหน่อยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่แจ้งเบาะแสสามารถติดตามผลการแจ้งได้โดยใส่รหัสอ้างอิงที่ได้รับแจ้ง
เบาะแส